เหตุผลที่การใช้บล็อกปูหญ้ามีความนิยมกันมากขึ้น ก็อาจเป็นเพราะ มีความนิยมมากขึ้นในเรื่องพื้นที่สีเขียว จริงๆ แล้วเราอาจอยากได้สนามหญ้าไปเลย แต่ก็มีปัญหาว่าในพื้นสนามหญ้านั้น เกิดความเฉอะแฉะ น้ำขังเวลาฝนตก และมีหน้าดินไหลไปตามน้ำเวลาที่เกิดฝนตกขึ้นมา และนอกจากนั้น พื้นที่สนามหญ้า ก็ใช้เป็นพื้นที่จอดรถไม่ได้ ครั้นจะเอารถไปจอดที่สนาม ก็จะทำให้หญ้าตาย และก็มีโคลนดินเฉอะแฉะอีก และพื่นที่ดินยังจะทรุดเป็นร่องล้อรถอีก
ตัวอย่างการปูบล็อกหญ้า |
ตัวอย่างบล็อกหญ้า |
ข้อหนึ่ง คำนึงถึงการออกแบบให้มี slope พอให้น้ำไหลไปได้ และไม่เกิดน้ำขังในบริเวณที่ทำ บล็อกหญ้า อันจะทำให้ พื้นที่ปูบล็อกหญ้าเกิดความไม่แข็งแรง และเสียหายเป็นจุดๆได้
1. การเตรียมพื้นที่ |
2. เกลี่ยปรับระดับหน้าดิน |
3. การบดอัดทราย 4. การวางบล็อก |
แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่ที่จะปูมีบริเวณพื้นที่มากๆ หรือบริเวณกว้าง จึงต้องใช้แรงานและเวลาจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ปัจจุบันจึงได้มีผู้ผลิต บล็อกปูหญ้าขนาดใหญ่ ที่มีทั้งขนาด 50 เซนติเมตร คูณ 50 เซนติเมตร และขนาด 100 เซนติเมตร คูณ 100 เซนติเมตร ซึ่ง บล็อกหญ้าขนาดนี้ นอกจากจะมีขนาดที่ใหญ่แล้ว ยังมีการเสริมเหล็ก อยู่ในตัวของบล็อกด้วย ทำให้สามารถปูได้เร็ว และไม่มีปัญหาการแตกร้าว
การทำงานของบล็อกหญ้าขนาดใหญ่นั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการช่วยทำงาน ทั้งนี้ขึ้นกับพื้นที่สภาพหน้างาน ว่า สามารถทำเครื่องมืออะไรเข้าไปได้ หากเป็น บล็อกใหญ่ขนาด 1 เมตร คูณ 1 เมตร แล้ว ก็จำเป็นต้องใช้รถแบ็กโฮล มายก ซึ่ง ตัวบล็อกหญ้าเอง ก็มีความแข็งแรงพอที่จะให้รถแบ็กโฮลขึ้นไปเหยียบ โดยไม่เกิดความเสียหายต่อ บล็อกหญ้าได้
ข้อดีอีกอย่างของบล็อกหญ้าก้อนใหญ่ก็คือ นอกจากจะรับน้ำหนักได้มากแล้ว ก็เกิดการทรุดตัวที่น้อยมาก เนื่องจากมีพื่นที่รับน้ำหนักที่กว้างต่อหนึ่งก้อน แม้ราคาต้นทุนวัสดุต่อตารางเมตร ของการใช้บล็อกปูพื้นแบบก้อนใหญ่จะสูงกว่า ราคาต้นทุนวัสดุ ต่อตารางเมตร อยู่บ้าง แต่ก็ต้องเอามาชั่งน้ำหนักเทียบกับ ความเร็วในการทำงานที่ได้กลับมา การสามารถใช้งานพื้นที่ได้เร็วขึ้น และต้นทุนแรงงานที่ลดไป ว่าคุ้มค่าต่อการเปลี่ยนมาใช้มากน้อยเพียงใดครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น