พลังงานจากแหล่งพลังงานที่สะสมอยู่ในโลกนั้น หากใช้ไปก็ย่อมมีแต่วันหมดไป หรืออยู่ในพื้นที่ที่สามารถขุดหานำมาใช้ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงของเวลาที่พลังงานจากถ่านหินและน้ำมันมีราคาสูง พลังงานทางเลือกก็ได้รับความนิยมมากขึ้น และมีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นด้วย พลังงานทางเลือกที่เป็นที่นิยมเหล่านี้ ก็ได้แก่ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากพืช เป็นต้น
พลังงานที่ได้มาจากพืชและของเหลือทางอุตสาหกรรม ก็สามารถนำมาใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้า ได้เช่นกัน โดยเราเรียกว่า พลังงานชีวภาพ ( Biogas) และพลังงานชีวมวล ( Biomass) และชื่อของพลังงานทางเลือกทั้งสองแบบนี้ก็พาให้สับสนได้เหมือนกัน
พลังงานชีวมวล (ฺBiomass) นั้นหมายถึง พลังงานที่เกิดจากการนำสารอินทรีย์ทุกรูปแบบ ที่เก็บกักพลังงานจากธรรมชาติได้ ทั้งนี้ไม่นับรวมถึงที่กลายเป็นซากฟอสซิลไปแล้ว มาเผาเพื่อให้ความร้อน ที่ทำให้เกิดไอน้ำ เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า
โดยมากสารอินทรย์ที่เรามักนำมาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าแบบนี้ ได้แก่ กากมันสำปะหลัง ซังข้าวโพด กระลามะพร้าว กากหญ้าเนเปียร์ เป็นต้น
ส่วนพลังงานชีวภาพ ( Bio gas ) นั้นหมายถึง การนำสารอินทรีย์ ไปหมัก เพื่อให้เกิดก๊าซจากการหมักขึ้นมา แล้วค่อยนำก๊าซที่ได้ไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งก๊าซที่ได้จากกระบวนการหมักนี้ จะได้ก๊าซ มีเทนที่ประมาณ 50-70% ของก๊าซที่ได้ และที่เหลือได้เป็น คาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซอื่นๆ แต่ก็เพียงพอที่จะใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยวิธีนี้ โดยมากทำโดยการดัดแปลงโรงไฟฟ้าที่แต่เดิมผลิตอยู่ด้วยการใช้น้ำมันเตา ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า
พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวล |
จะเห็นได้ว่า พลังงานจากไฟฟ้าชีวภาพ และชีวมวลนั้น เป็นพลังงานไฟฟ้าที่ ไม่หมดไป เหมือนพลังงานจากที่ได้จากการนำฟอสซิลไปผลิตพลังงาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พลังงานส่วนใหญ่ที่ผลิตได้เพื่อใช้ในปัจจุบันก็ยังมาจากพลังงานจากแหล่งฟอสซิลอยู่ดี เพราะพลังงานจากแหล่งทางเลือก ยังไม่สามารถผลิตได้ในจำนวนมากๆ ได้เหมือนกับพลังงานจากแหล่งหลัก
สำหรับในประเทศไทยนั้น แผนพัฒนาพลังงานฉบับใหม่ได้วางเป้าให้ผลิตพลังงานจากพืชพลังงานให้ได้มีกำลังการผลิต 650 เมกาวัตต์ ต่อปี ซึ่งถ้านับจากจำนวนโรงฟ้าที่ผลิตพลังงานจากพืชพลังงานในปัจจุบันแล้ว คาดว่าในอนาคตประเทศไทยเรายังมีโอกาสที่จะมีโรงไฟฟ้าจากพืชพลังงานนี้เพิ่มขึ้นอีกพอสมควร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น