BTU (BRITISH THERMAL UNIT) คือ คือหน่วยที่ใช้วัดปริมาณความร้อนหน่วยหนึ่ง (ซึ่งเป็นที่นิยมใช้มากในระบบปรับอากาศ) สำหรับเครื่องปรับอากาศนั้นจะวัดกำลังความเย็นหรือความสามารถในการดึงความร้อน (ถ่ายเทความร้อน) ออกจากห้องปรับอากาศในหน่วยบีทียูต่อชั่วโมง ( BTU/H ) ซึ่งเทียบเท่ากับหน่วยวัตต์ในระบบสากล เช่น เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 บีทียูต่อชั่วโมง หมายความว่าเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้น มีความสามารถในการดึงความร้อนออกจากห้องปรับอากาศ 12,000 บีทียู ภายในเวลา 1 ชั่วโมง เราควรเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องที่จะติดตั้ง โดยใช้การเปรียบเทียบการเลือกขนาดของ BTU กับพื้นที่ห้อง ดังนี้
ในการเลือกซื้อแอร์นอกจากต้องสังเกตฉลากเบอร์ 5 แล้ว ควรพิจารณาค่า SEER หรือ EER ซึ่งเป็นค่าประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน โดยค่านี้ได้รับการทดสอบการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยิ่งค่าสูงยิ่งหมายถึงประหยัดไฟมาก
*** SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) เป็นค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานตามฤดูกาลของแอร์ ทำให้ค่า SEER จึงมีความใกล้เคียงกับสภาพการใช้พลังงานจริงๆ มากกว่า EER ซึ่งแอร์บ้านที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะแสดงค่าเป็น SEER
EER (Energy Efficiency Ratio) เป็นค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของแอร์ ซึ่งแอร์บ้านที่ไม่ใช่ระบบอินเวอร์เตอร์ (Non Inverter) จะแสดงค่าเป็น EER
การเลือกแอร์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปนั้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย สิ้นเปลืองพลังงาน ความชื้นในห้องสูง ไม่สบายตัว ราคาและค่าติดตั้งสูงขึ้น
การเลือกแอร์ที่มีขนาดเล็กเกินไปนั้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา สิ้นเปลืองพลังงาน อายุการใช้งานสั้น ห้องไม่เย็น หรือเย็นช้า
แต่ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการเลือกขนาดของ BTU เพิ่มเติม ก็คือ จำนวนและขนาดของหน้าต่าง, ทิศที่แดดส่องถึงหรือทิศที่ตั้งของห้อง วัสดุหลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่ค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น