1. ใช้ปากกาหรือดินสอขีดคล่อมรอยร้าว โดยให้เส้นที่ขีดตั้งฉากกับรอยร้าววัดความยาวของเส้นที่ขีด และจดบันทึกพร้อมลงวันที่ไว้ด้านข้าง การทำเช่นนี้จะทำให้ตรวจวัดได้ในภายหลังว่ารอยแตกร้าวนั้นกว้างขึ้น หรือมีการลื่นไถลจากเดิมหรือไม่ หากเป็นรอยแตกร้าวแนวเฉียงที่ผนังซึ่งเกิดจากฐานรากทรุดตัวไม่เท่ากัน รอยแตกร้าวที่เกิดเพิ่มขึ้นมักจะมีลักษณะเลื่อนเฉือนตามแนวของรอยแตกเดิม ทำให้เส้นที่ขีดคล่อมรอยร้าวไว้เลื่อนเหลื่อมจากกันไม่อยู่ในแนวเส้นตรงดังเดิม
2. ใช้ปากกาหรือดินสอขีดกั้นที่ปลายของรอยร้าว พร้อมบันทึกวันที่ที่ทำเครื่องหมายไว้ด้วย หากแตกร้าวเพิ่มขึ้นรอยร้าวจะยาวเกินเส้นที่ขีดคั่นไว้
3. ใช้แผ่นกระจกสไลด์ซึ่งหนาประมาณ 2 มม. ติดคร่อมรอยร้าวในแนวตั้งฉากกับรอยร้าวโดยติดกาวที่กระจกทั้งสองข้างของรอยร้าว ก่อนติดกระจกควรใช้กระดาษทรายขัดผิวปูนให้เรียบ และสะอาดก่อนเพื่อกระจกจะได้ติดแน่นไม่หลุดล่อนในภายหลัง เมื่อติดกระจกทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่งแล้วแตกแสดงว่ามีการขยับตัวแตกร้าวเพิ่มขึ้น
4. ใช้แผ่นสเกลตรวจวัด ติดคร่อมรอยร้าวแผ่นตรวจวัดพิเศษที่ว่านี้ประกอบด้วยแผ่นพลาสติกสองแผ่นที่เลื่อนออกจากกันได้ บนแผ่นพลาสติกแต่ละแผ่นมีสเกลวัดระยะความยาวและวัดมุม เมื่อรอยร้าวเพิ่มขึ้นแผ่นพลาสติกจะเลื่อนหลุดจากกัน สามารถวัดความยาวของรอยร้าวที่เพิ่มขึ้นและระยะเลื่อนบิดของรอยแตกได้
*** ข้อสังเกต อย่างไรก็ตาม เท่าที่พบเห็นวิธีใช้กระจกติดทาบเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของรอยร้าวนั้นมักจะไม่ค่อยเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะรอยร้าวเฉียงที่กลางผนังซึ่งเกิดจากการทรุดตัวของฐานรากไม่เคยพบเห็นกระจกแตกเลย ทั้งๆที่กระจกยังติดแน่นกับเนื้อปูนทั้งสองข้างของรอยร้าวและรอยร้าวก็เกิดเพิ่มขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะรอยร้าวที่เกิดเพิ่มขึ้นนั้นเกิดในลักษณะเลื่อนไถลมากกว่าจะแตกกว้างออกจากกันตรงๆ การเลื่อนไถลของรอยร้าวไม่สามารถทำให้กระจกแตกได้ เมื่อกระจกไม่แตกก็เลยคิดว่ารอยร้าวไม่เพิ่มขึ้น วิธีติดกระจกจึงอาจไม่แสดงผลให้ทราบแน่ชัดเสมอไป วิธีที่ให้ผลดีกว่าและทำได้แบบง่ายๆ จึงน่าจะเป็นวิธีขีดเส้นคร่อมรอยร้าวตามที่กล่าวในตอนต้น
ขอบคุณหนังสือ: คู่มือตรวจสอบรอยร้าว สาเหตุและการแก้ไข
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น